พ่อค้าแม่ค้ากับควรรู้ การเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งต้องเสียภาษีหรือไม่

ต้องอธิบายให้เข้าใจก่อนว่าการที่ร้านค้าจะเสียภาษีหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน หรือโครงการใด ๆ ของภาครัฐ

เพราะตามกฎหมายทุกคนที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดจะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบเสียภาษี อย่างเช่น มนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกปี ในส่วนของพ่อค้า-แม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ รายย่อย ก็ไม่ต่างกัน เพราะถือเป็นคนไทยที่มีรายได้ โดยรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณภาษีก็คือยอดรวมที่ร้านค้าขายสินค้าได้จากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นขายโดยตรง ขายของออนไลน์ รวมทั้งยอดขายจากแอปฯ ถุงเงิน ที่ได้เข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ตลอดทั้งปีภาษีนั้น อีกทั้งพ่อค้าแม่ค้าต้องจัดการในเรื่องภาษีให้ถูกต้องโดยสรุปดังนี้
1. ศึกษาภาษีที่เกี่ยวข้องกับรายได้ที่เกิดจากการการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งภาษีที่เกี่ยวข้องได้แก่ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีมูลค่าเพิ่ม ในกรณีที่ร้านค้ามีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทขึ้นไปในปีนี้ สิ่งที่ต้องทำคือไปจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ที่มีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ซึ่งรายได้ในที่นี้หมายถึงรายได้รวมทั้งรายได้จากโครงการคนละครึ่งและรายได้ที่ไม่ได้มาจากโครงการคนละครึ่ง โดยรายได้จากโครงการคนละครึ่งหมายถึงรายได้ส่วนที่รัฐออกให้รวมกับรายได้ส่วนที่ได้จากลูกค้า
2. ร้านค้าควรจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย จะช่วยให้กิจการรู้ตัวเลขยอดขาย ค่าใช้จ่าย กำไรเพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการยื่นแบบเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคล
เมื่อมีการจัดการเรื่องภาษีอย่างถูกต้องแล้ว ร้านค้าก็จะทราบว่ารายได้จากการเข้าร่วมโครงการฯนั้นจะต้องเสียภาษีหรือไม่ แต่ถึงจะไม่ต้องเสียภาษีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายก็นับว่ามีประโยชน์กับพ่อค้าแม่ค้า ช่วยให้ร้านค้ารู้ตัวเลขต้นทุน ค่าใช้จ่าย ช่วยในการประมาณการยอดขาย ทำให้ทราบสถานะทางการเงิน และช่วยในการบริหารเงินให้เกิดสภาพคล่องได้

ยังไงก็ตาม เรื่องภาษีจะง่ายยิ่งขึ้นหากให้ Pimaccounting เป็นคนดูแล
ติดต่อเรา
Website : https://www.pimaccounting.com
Line Official : Pimlegal
Tel : 094-365-5697, 092-889-9046
Email : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.